วิธีจดแจ้ง อย. น้ำหอม: 5 เรื่องควรรู้ก่อนสินค้าจะถูกกฎหมาย (ฉบับอัปเดต 2026)

วิธีจดแจ้ง อย. น้ำหอม: 5 เรื่องควรรู้ก่อนสินค้าจะถูกกฎหมาย (ฉบับอัปเดต 2026)

อยากขายน้ำหอมแบบสบายใจ ไม่ต้องกลัวโดนสั่งเก็บสินค้าหรือโดนค่าปรับมหาศาล? นี่คือคู่มือการจดแจ้งเลข อย. 10 หลัก สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ครับ

เครื่องสำอาง "จดแจ้ง" ไม่ใช่ "ลงทะเบียน"
จำไว้เสมอว่าน้ำหอมไม่ต้องมี "โลโก้ อย." (วงรี) บนกล่อง แต่ต้องมี "เลขที่ใบรับจดแจ้ง 10 หลัก" แทน ซึ่งกระบวนการนี้คือการยื่นข้อมูลส่วนผสมและสถานที่ผลิตให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยผ่านระบบออนไลน์ (e-Submission) ครับ

2. สถานที่ผลิต/นำเข้า ต้องผ่านการประเมิน
ก่อนจะจดเลขสินค้าได้ "สถานที่" ต้องถูกต้องก่อน:

กรณีผลิตในไทย: โรงงาน OEM ที่คุณเลือกต้องมีใบอนุญาตผลิตเครื่องสำอางและผ่านเกณฑ์ GMP
กรณีนำเข้า: คุณต้องจดทะเบียนสถานที่นำเข้าและเก็บรักษาเครื่องสำอางให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งต้องเป็นสถานที่ที่สะอาด มีสัดส่วน และตรวจสอบได้จริง

3. เตรียม "สูตรส่วนประกอบ" ให้ครบ 100%
ข้อผิดพลาดที่ทำให้การจดแจ้งถูกตีกลับบ่อยที่สุดคือสูตรไม่ครบ:

ต้องระบุชื่อสารเคมีตามมาตรฐาน INCI Name เท่านั้น
เปอร์เซ็นต์รวมของส่วนประกอบทั้งหมดต้องเท่ากับ 100% เป๊ะๆ
ห้ามมีสารต้องห้ามตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ซึ่งโรงงานมาตรฐานจะช่วยสกรีนให้เราอยู่แล้ว)

4. ฉลากภาษาไทย "ต้องมี" และ "ห้ามโอเวอร์"
เมื่อได้เลขจดแจ้งมาแล้ว การทำฉลากต้องระบุข้อมูลให้ครบ:

ชื่อผลิตภัณฑ์, ประเภท, วิธีใช้, คำเตือน
ชื่อและที่อยู่ผู้ผลิต/ผู้นำเข้า, ปริมาณสุทธิ, เดือนปีที่ผลิต/หมดอายุ
คำเตือน: ห้ามโฆษณาเกินจริง เช่น "หอมนาน 3 วัน" หรือ "ใช้แล้วคนรักคนหลง" เพราะอาจโดนเพิกถอนเลขจดแจ้งภายหลังได้

5. อายุการจดแจ้งและการต่ออายุ
ใบรับจดแจ้งน้ำหอมมีอายุ 3 ปี
คุณต้องยื่นต่ออายุล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน ก่อนวันหมดอายุผ่านระบบออนไลน์
หากมีการเปลี่ยนชื่อกลิ่น เปลี่ยนสูตร หรือย้ายที่ตั้งโรงงาน ต้องยื่น "ขอแก้ไข" หรือ "จดใหม่" ทันที