งบประมาณเท่าไหร่ถึงจะเริ่มทำแบรนด์น้ำหอมได้? (แจกโพยค่าใช้จ่ายฉบับปี 2026)

งบประมาณเท่าไหร่ถึงจะเริ่มทำแบรนด์น้ำหอมได้? (แจกโพยค่าใช้จ่ายฉบับปี 2026)

หนึ่งในคำถามยอดฮิตสำหรับคนที่อยากมีแบรนด์น้ำหอมเป็นของตัวเองคือ "ต้องมีเงินเท่าไหร่?" หลายคนกลัวว่าต้องใช้เงินหลักแสนหลักล้าน แต่ความจริงแล้วในปี 2026 ด้วยระบบโรงงาน OEM ที่ทันสมัย คุณสามารถเริ่มต้นได้ด้วยงบประมาณที่ยืดหยุ่นกว่าที่คิดครับ

เรามาเจาะลึกกันว่า งบแต่ละระดับทำอะไรได้บ้าง?

1. งบเริ่มต้น (Starter Budget): 20,000 - 50,000 บาท
เหมาะสำหรับ: พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ หรือคนที่อยากลองตลาดด้วยจำนวนน้อย

สิ่งที่ได้รับ: น้ำหอมจำนวนประมาณ 100 - 200 ขวด (ขึ้นอยู่กับขนาด ml)
รายละเอียด: ใช้สูตรมาตรฐานของโรงงาน (Standard Formula) เลือกขวดและบรรจุภัณฑ์ที่มีสต็อกอยู่แล้ว
การจดแจ้ง: รวมค่าจดแจ้ง อย. เบื้องต้นแล้ว
ข้อแนะนำ: เน้นการขายผ่าน TikTok หรือ Social Media เพื่อคืนทุนให้ไวที่สุด

2. งบสร้างตัว (SME Budget): 50,000 - 150,000 บาท
เหมาะสำหรับ: คนที่ต้องการความเป็นเอกลักษณ์ (Unique Selling Point)

สิ่งที่ได้รับ: น้ำหอมจำนวน 500 - 1,000 ขวด หรือคละได้ 2-3 กลิ่น
รายละเอียด: สามารถ "พัฒนาสูตรใหม่" (R&D) ให้เป็นกลิ่นเฉพาะของแบรนด์ได้ ออกแบบกล่องพรีเมียม (Custom Box) และพิมพ์สกรีนบนขวดได้สวยงาม
จุดเด่น: ต้นทุนต่อขวดจะลดลงมาก ทำให้มีกำไร (Margin) ไปใช้ในการทำโฆษณาได้มากขึ้น

3. งบมือโปร (Professional/Luxury): 300,000 บาทขึ้นไป
เหมาะสำหรับ: การทำแบรนด์เข้าห้างสรรพสินค้า หรือส่งออก

สิ่งที่ได้รับ: สินค้าครบวงจร จำนวน 2,000 ขวดขึ้นไป
รายละเอียด: ใช้หัวเชื้อน้ำหอมนำเข้าเกรดพรีเมียม (เช่น จากฝรั่งเศสหรือสวิตเซอร์แลนด์) ขวดแก้วสั่งทำพิเศษ (Custom Mold) และมีงบสำหรับการจ้าง Influencer หรือทำ Event เปิดตัว
จุดเด่น: สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ระดับสูง (High-end Branding) ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เคล็ดลับบริหารงบสำหรับมือใหม่:

• อย่าลงเงินกับสต็อกทั้งหมด: แบ่งงบประมาณอย่างน้อย 30-40% ไว้สำหรับการ "ทำการตลาด" เพราะน้ำหอมที่หอมที่สุดก็ขายไม่ได้ถ้าไม่มีคนรู้จัก
• เริ่มจาก 1-2 กลิ่นก่อน: เพื่อทดสอบตลาด (Market Validation) ก่อนจะขยายไลน์สินค้าเพิ่ม