สร้างแบรนด์ธุรกิจความงาม​ดียังไง​ ทำไมรวยไวติดจรวด!

Last updated: 17 ส.ค. 2565  |  1614 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทำแบรนด์เครื่องสำอาง_สร้างแบรนด์เครื่องสำอาง

เรื่องที่ ใครที่ อยากสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง ของตนเอง ต้องรู้!

ความสวยความงามเป็นเรื่องที่ใครก็อยากพุ่งเข้าหา เพราะนอกจากจะช่วยให้ภาพลักษณ์ภายนอกดูดีขึ้นแล้วยังช่วยเสริมความมั่นใจได้เป็นอย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมผลิตภัณฑ์ความงามและเครื่องสำอางถึงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าหลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้หลายธุรกิจในตลาดซบเซาลง แต่ธุรกิจความงามและสุขภาพกลับโตขึ้นสวนกระแส แถมยังมีช่องว่างให้เติบโตขึ้นได้อีกมากทั้งในและต่างประเทศ


ธุรกิจด้านความงาม ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีอัตราการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลิตภัณฑ์ความงามและเครื่องสำอางนั้นเป็นสินค้า Unisex สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัยและได้รับความสนใจจากผู้บริโภคอยู่เสมอ จากการที่ผู้คนต่างหันมาดูแลตัวเองและใส่ใจในเรื่องความงามมากขึ้นทั้งในด้านความสวยความงามและผิวพรรณ จึงทำให้ทำให้ธุรกิจความงามและเครื่องสำอางเริ่มบูม ทั้งผู้ผลิตและผู้ประกอบการรายน้อยใหญ่ต่างรวยไวชนิดติดจรวดเลยทีเดียว 



โอกาสทองของธุรกิจความงาม

  1. มูลค่าตลาดความงามมีแนวโน้มเติบโตไม่หยุด


    ธุรกิจด้านสุขภาพความงาม เป็นอีกธุรกิจติดโพลดาวรุ่งยอดนิยมต่อเนื่องกันมาถึง 6 ปีเลยทีเดียว โดยมีมูลค่าตลาดในไทยมากถึง 250,000 ล้านบาท เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินแคร์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 400,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นผลิตบำรุงผิวขาว 48% ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วไป 43% และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบให้ประโยชน์เฉพาะ 9% แถมยังมีโอกาสเติบโตในตลาดอาเซียนอีกด้วย


    2.โอกาสจากการเปิดอาเซียน 


    ธุรกิจเครื่องสำอางและความงามเป็นธุรกิจที่กำลังบูมในปัจจุบัน จากการที่ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ หรือแม้แต่ผู้สูงวัยต่างมีความต้องการใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ด้านความงามอยู่เสมอ ซึ่งไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างอาเซียนก็มีความต้องการสินค้าเหล่านี้เช่นกันและได้รับการตอบรับที่ดีอีกด้วย ซึ่งเมืองไทยบ้านเราเองก็เป็นประเทศที่มีวัตถุดิบที่นำมาใช้เป็นสารสกัดและมีคุณสมบัติที่เหมาะกับการดูแลสุขภาพและความงามอย่างอุดมสมบูรณ์ ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำและสร้างกำไรให้ผู้ประกอบการได้มากขึ้นนั่นเอง


    3. แรงกระเพื่อมจากการตลาดออนไลน์ 


    ธุรกิจด้านความงามสามารถทำง่ายขึ้นมากกว่าแต่ก่อน โดยเป็นช่องทางหลักที่จะเข้ามาส่งเสริมตลาดออฟไลน์หรือหน้าร้านได้ เพราะในปัจจุบันมีทั้งแพลตฟอร์ม E-Commerce, Market Place และ Social Media อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter, TikTok รวมไปถึง Line OA และเว็บไซต์ ที่สามารถกระจายข้อมูลและเทรนด์ที่กำลังเป็นกระแสไปถึงผู้คนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหากรู้วิธีหรือเทคนิคการทำตลาดออนไลน์ก็จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายและต้นทุนไปได้เป็นจำนวนมาก 


    4. ระบบขนส่งและโลจิสติกส์ที่เอื้ออำนวย


    การขนส่งเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนธุรกิจความงามให้ขยายตัวไปทั้งในประเทศและนอกประเทศ ซึ่งในปัจจุบันเองก็มีบริษัทขนส่งหลากหลายเจ้าที่มีระบบขนส่งที่ทันสมัยและรวดเร็วขึ้น ตอบโจทย์การขนส่งสินค้าที่หลากหลายในเรทราคาที่ไม่แพงมากจนเกินไป อีกทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางส่วนใหญ่มีน้ำหนักเบาและไม่เน่าเสียหรือแตกหักง่ายมากเท่าไหร่นัก จึงทำให้การขนส่งสินค้าประเภทเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงามไม่มีปัญหาเท่ากับสินค้าประเภทอื่นๆ 

    5.ความต้องการสินค้าของผู้บริโภค


    ถึงแม้ว่าในประเทศไทยจะมีการแข่งขันในตลาดความงามสูง แต่กลับสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้มากขึ้นแถมยังได้กำไรมากกว่าการขายในประเทศอีกด้วย โดยสินค้าไทยนั้นไม่เป็นสองรองใครและเป็นที่ต้องการมากในตลาดต่างประเทศ โดยมีจุดเด่นในเรื่องวัตถุดิบและงานวิจัยที่รองรับ รวมถึงมีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานสากลด้วยนั่นเอง


    6.เริ่มต้นได้ด้วยทุนไม่ถึงหลักแสน


    ปัจจุบันมีโรงงานผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงามที่ให้บริการแบบ One stop service ที่ให้บริการผลิตแบรนด์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ความงามอย่างครอบคลุมโดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายต่อ มีค่าบริการเริ่มตั้นตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่น โดยให้บริการตั้งแต่การให้คำปรึกษาก่อนการผลิต การให้คำแนะนำเรื่องสูตร การออกแบบแพ็คเกจและตราสินค้า ฯลฯ เป็นต้น เรียกได้ว่าทั้งสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ดีเลยทีเดียว 



อยากสร้างแบรนด์ความงาม​เป็นของตนเองต้องทำอย่างไร?


การสร้างแบรนด์ความงามของตนเองให้ปังนั้น ไม่เพียงแต่ต้องทุ่มไปที่การทำการตลาดและการโฆษณาเท่านั้น แต่ยังต้องทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับและเป็นที่รักของลูกค้าได้ โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตที่จะทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพออกมาและไม่ซ้ำใครควบคู่กับการมองหาโอกาสธุรกิจไปด้วย โดยเริ่มตั้งแต่..


1. สำรวจตลาด


ขั้นตอนแรกของการสร้างแบรนด์คือต้องรู้ก่อนว่าในตลาดมีแนวโน้มและความต้องการอย่างไร ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นใครและมีปัญหาอะไรบ้างที่ผลิตภัณฑ์ของเราจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นได้ รวมถึงศึกษาคู่แข่งในท้องตลาดว่ามีจุดแข็ง-จุดอ่อนอย่างไรที่แบรนด์จะสามารถเข้าไปตีตลาดและมีโอกาสเติบโตขึ้นมาได้เช่นกัน เมื่อมองเห็นช่องทางแล้วก็เตรียมลุยได้เลย 


2.ล็อกเป้ากลุ่มเป้าหมาย


หลังจากสำรวจตลาดและมองเห็นโอกาสทางธุรกิจแล้ว เจ้าของแบรนด์จะต้องรู้จักกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตนเองก่อนว่าต้องการขายผลิตภัณฑ์นี้ให้กับใคร มีพฤติกรรมการบริโภคแบบไหน และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากน้อยเพียงใด เพื่อมองหาโอกาสและสามารถวางแผนการตลาดที่เหมาะสมต่อไปได้ 


3.การคิดค้นและการออกแบบ


อีกขั้นตอนที่สำคัญของการสร้างแบรนด์ คือ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาขาย โดยผลิตภัณฑ์ความงามนั้นมีอยู่หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ คลีนซิ่งแคร์ เมคอัพ หรือน้ำหอมต่างๆ ซึ่งจะต้องมีการคิดค้นสูตรและส่วนผสมที่ปลอดภัยและดีต่อผู้บริโภค ซึ่งเจ้าของแบรนด์เองก็ควรมีความรู้ความเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์และสารสกัดของวัตถุดิบที่จะนำมาใช้เป็นจุดขาย แต่หากไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจอาจจะต้องปรึกษากับผู้ที่มีความรู้หรือมีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ออกมามีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือ


4.เลือกโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานและตอบโจทย์


การเลือกโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ความงามนั้นควรเป็นโรงงานที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล ได้แก่ 

  •  มาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) หลักเกณฑ์ชี้วัดมาตรฐานโรงงานผลิตเครื่องสำอางและอาหารเสริม เพื่อรับรองว่าสถานที่ผลิตมีความสะอาด ถูกสุขภาพอนามัย มีการผลิตที่ถูกต้องและปราศจากการปนเปื้อน รวมถึงควบคุมบุคลลากรให้ถูกต้องตามมาตรฐาน


  • มาตรฐาน ISO (International Standards Organization) เป็นมาตรฐานสากลที่แสดงว่าเครื่องสำอางและอาหารเสริมนั้นมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตั้งแต่การผลิต การให้บริการ รวมถึงการรักษาคุณภาพให้อยู่ในมาตรฐานสากลอยู่เสมอ 


นอกจากนี้ ยังควรเลือกโรงงานผลิตที่ให้บริการครบวงจร เพื่อความสะดวก ประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยพิจารณาโรงงานที่ให้บริการตั้งแต่ การคิดสูตรการผลิตตลอดจนถึงให้การปรึกษาการตลาด รวมถึงพิจารณาจากความเป็นมืออาชีพและมีความมั่นคงมากพอที่จะเติบโตไปพร้อมกับแบรนด์ได้ 



สร้างแบรนด์ธุรกิจความงามให้รุ่งกับ KCOSMEX



ทุนน้อยก็เป็นเจ้าของแบรนด์ธุรกิจความงามได้ KCOSMEX (เคคอสเม็กซ์) โรงงานผลิตสินค้าความงามมืออาชีพที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ASEAN GMP และการันตีด้วยรางวัลอีกมากมาย พร้อมสร้างแบรนด์ให้เติบโตในราคาเริ่มต้นหลักพัน พร้อมผลักดันการส่งออกไปยังต่างประเทศและดูแลธุรกิจ SME ตั้งแต่เริ่มต้นด้วยบริการที่ครบวงจร  

  • สามารถผลิตสินค้าได้ทั้งตามสูตรสำเร็จของโรงงาน OEM และการพัฒนาสูตร โดย KCOSMEX จะทำการเก็บคอนเซปต์ที่ลูกค้าต้องการและทำการออกแบบให้โดยที่ลูกค้าสามารถปรับแก้ได้ไม่จำกัด พร้อมให้คำปรึกษาด้านการคิดค้นสูตร สารสกัดและการทดลอง ก่อนนำขึ้นผลิต ตรวจสอบและส่งมอบอย่างมีคุณภาพ


  •  KCOSMEX มีแลปสำหรับพัฒนาสูตรเฉพาะของแต่ละแบรนด์ สามารถพัฒนาได้ทั้งครีม สบู่ สกินแคร์ เครื่องสำอาง น้ำหอม รวมไปถึงมาส์กลอกสิว แผ่นลอกสิวและแอลกอฮอล์ ด้วยมาตรฐานการผลิตที่รับรองโดย ASEAN GMP 


  • อำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ทั้ง Trade Mask, CFS (Certificate of Freesale), COM (Certificate Of Manufactory) และเอกสารรับรองการผลิต COA (Certificate of Analysis)


  • สนับสนุนช่องทางการขายและผลักดันการส่งออกไปยังต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เมียนมาร์, กัมพูชา, เวียดนาม, สปป.ลาว, สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย หรือ จีน โดยมีทั้งการจัด Business Matching และการจัดทริปสำรวจตลาดเพื่อหาคู่ค้าในต่างแดน


  • มีทีมการตลาดมืออาชีพคอยช่วยเหลือ ตั้งแต่ขั้นตอนพื้นฐานไปจนถึงการทำการตลาดขั้นสูงในทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยสามารถเรียนซ้ำได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง พร้อมบริการตั้งราคาทั้งปลีก ส่ง และราคาสำหรับตัวแทน



KCOSMEX โรงงานผลิตสินค้าความงาม ภายใต้ บริษัท ขนิษฐา เรียลบิวตี้ จำกัด มีแลปพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน สามารถนำเข้าและคัดสรรสารสกัดพิเศษ พร้อมคิดค้นสูตรเฉพาะที่เป็น 1 เดียวของแบรนด์และทำสัญญาการผลิตที่เป็นความลับ ให้คำแนะนำตั้งแต่เริ่มต้น พร้อมทีมงานการตลาดมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในการสร้างแบรนด์ การขาย การโปรโมทสินค้า ตลอดจนสนับสนุนช่องทางการขายและการส่งออก เพื่อให้ให้คุณสามารถประสบความสำเร็จได้จริงและยั่งยืน

สร้างแบรนด์ความงามให้ปังกับเรา

คลิก https://lin.ee/sTgzTAz

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้